19 กันยายน 2566 By AIRA & AIFUL

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า "e-KYC" (Electronic Know Your Customer) ได้มีขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในกระบวนการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีธนาคาร หรือการสมัครบริการต่าง ๆ ไม่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั่วโลกก็เริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อการทำธุรกรรมทางการเงินเช่นกัน เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังธนาคารหรือหน่วยงานทางการเงิน

e-KYC คืออะไร?

e-KYC เป็นกระบวนการระบุตัวตนและยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและตัวตนของลูกค้า เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือหลักฐานส่วนบุคคลอื่น ๆ กระบวนการนี้ช่วยให้ธนาคารและผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินสามารถตรวจสอบตัวตนของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้นว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน

การทำ e-KYC เป็นการปฏิบัติตามกฎระเบียบเรื่องการแสดงตนของลูกค้าในธุรกิจต่าง ๆ เช่น ธนาคาร ประกันภัย โทรคมนาคม และอีคอมเมิร์ซ โดยใช้เทคโนโลยี เช่น ไบโอเมตริก (การยืนยันตัวตนด้วยชีวภาพ) การใช้รหัส OTP (รหัสผ่านครั้งเดียว) โดยข้อมูลจะถูกนำมาใช้เพื่อเปิดบัญชี เสนอบริการ หรือทำธุรกรรมที่จำเป็นต่าง ๆ ในภายหลัง

ความสำคัญของ e-KYC ในการทำธุรกรรมทางการเงิน

1. รวดเร็วและสะดวกสบาย: กระบวนการ e-KYC ช่วยให้สามารถตรวจสอบตัวตนของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนได้จากที่ใดก็ได้ผ่านเครื่องมือออนไลน์ที่มีอยู่แล้ว เช่น โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปธนาคารหรือหน่วยงานทางการเงินเพื่อทำกระบวนการ KYC ให้เสร็จสิ้น
2. ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: กระบวนการ KYC แบบเดิมใช้เวลานานในการตรวจสอบเอกสาร รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางเมื่อเทียบกับ e-KYC ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้รวดเร็วมากขึ้นและลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทันที ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าพิมพ์เอกสาร
3. ปลอดภัย: e-KYC ใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ไบโอเมตริก การใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล ช่วยลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงตัวตนและการฉ้อโกงในการทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากข้อมูลถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยในรูปแบบออนไลน์
4. ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ: การใช้ e-KYC ช่วยให้ธนาคารและผู้ประกอบธุรกิจทางการเงินสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายและกฎระเบียบ เช่น กฎระเบียบด้านการต่อต้านการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

สรุป

e-KYC เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำธุรกรรมทางการเงินในปัจจุบัน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า ลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในกระบวนการตรวจสอบตัวตน รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากมีการรักษาข้อมูลที่ถูกต้องและปลอดภัย ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีการทำธุรกรรมทางการเงินที่สะดวกสบาย ไม่ควรพลาดที่จะพิจารณาการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยี e-KYC เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยขั้นสูงในการทำธุรกรรมของคุณ

ปัจจุบันลูกค้าสามารถสมัครบัตรกดเงินสด A money ผ่านแอปพลิเคชันด้วยเทคโนโลยี e-KYC ได้แล้ว อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ไม่ต้องไปสาขา ไม่ต้องเสียเวลาส่งเอกสาร ได้รับอนุมัติ กดโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารได้เลย