X
Open

ทิปส์การเงิน

เงินช็อต ไม่มีช็อตอีกต่อไป เพียงจัดการด้วย 5 เทคนิคง่าย ๆ 

เงินช็อต

หลายคนพอเงินเดือนออกก็แทบไม่เหลือเก็บ เพราะต้องรีบใช้ไปกับค่าใช้จ่ายสารพัด ไม่ว่าจะเป็นค่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ หรือหนี้สินที่ต้องจ่าย จนบางครั้งเงินไม่พอถึงสิ้นเดือน บางคนเงินช็อตถึงขั้นต้องคิดวิธีหาเงิน 30000 ภายใน 1 วัน เพื่อเอามาหมุนจ่ายหนี้และประคองให้อยู่รอดจนถึงสิ้นเดือน หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่เงินขาดมือแทบทุกเดือน รับรองว่าเป็นภาระหนักแน่นอน บทความนี้จึงจะพาทุกคนมาหาวิธีแก้ปัญหาเงินช็อตอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีเงินใช้เพียงพอจนถึงสิ้นเดือน โดยไม่ต้องกู้ยืมเงินนอกระบบที่เต็มไปด้วยดอกเบี้ยแพงและความเสี่ยงที่ตามมา

สารบัญบทความ

เงินช็อตคืออะไร น่ากังวลแค่ไหน?

เงินช็อต คืออะไร

เงินช็อต คือ ปัญหาทางการเงินที่เกิดจากเงินไม่พอใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง มักเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เช่น ต้องจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ หรือมีค่าใช้จ่ายด้านรักษาพยาบาลที่เลี่ยงไม่ได้ ปัญหาเงินช็อตสามารถแก้ไขได้จากการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และไม่ก่อหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็น

สิ่งที่น่ากลัวคือ เมื่อเงินไม่พอใช้แล้ว ปัญหาเงินช็อตยังนำมาสู่ปัญหาทางการเงินมากมาย เช่น ต้องกู้เงินระยะสั้น เช่น ยืมเงินฉุกเฉิน 5000 ด่วน ซึ่งมักมาพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าหนี้ระยะยาว ทำให้ผู้กู้ยืมต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น และหากผิดนัดชำระก็อาจกระทบต่อประวัติทางการเงินในท้ายที่สุด

ปัญหาเงินช็อต ส่วนใหญ่มีสาเหตุอะไรได้บ้าง?

นอกจากปัญหาเงินช็อตจะมาจากค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้คุณเงินหมดก่อนสิ้นเดือนดังต่อไปนี้

  • การซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น

หากรู้ตัวว่าเดือนนี้ช็อต ก็อย่าเพิ่งซื้อของฟุ่มเฟือยอย่างนาฬิกาหรู เสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือกระเป๋าราคาแพง ล้วนเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำหลายคนหมุนเงินไม่ทัน และถึงขั้นต้องกู้เงินมาใช้จ่ายประจำวัน ซึ่งยิ่งเพิ่มภาระหนี้สินให้มากขึ้น

  • ขาดเงินสำรองไว้ใช้จ่ายยามจำเป็น

การเก็บเงินก้อนสำรองไว้ใช้ยามจำเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อต้องการใช้เงินด่วน ก็สามารถนำเงินฉุกเฉินออกมาใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องกู้เงิน หากไม่มีเงินเก็บสำรองแล้ว ก็อาจต้องขอสินเชื่อถูกกฎหมาย แต่หากเครดิตไม่ดี อาจถูกบังคับให้ต้องไปกู้เงินนอกระบบที่ดอกเบี้ยสูง แต่ไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินแบบไหน ก็จะต้องมีการชำระดอกเบี้ยพร้อมยอดเงินที่กู้ยืมมา ซึ่งหากใช้เงินเดือนชนเดือนอยู่แล้ว และต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อีกก็จะส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินในระยะยาว

  • รายได้น้อย ไม่พอกับรายจ่าย

รายได้จากการทำงานไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้สินค้าและบริการต่าง ๆ มีราคาที่สูงขึ้น แต่รายได้ที่มีเท่าเดิมเสมอ ส่งผลให้เงินไม่พอใช้และเสี่ยงต่อการเงินช็อตซ้ำ ๆ

อาการแบบไหนเป็นสัญญาณของเงินช็อต

ปัญหาเงินช็อต อาจเริ่มจากสัญญาณเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป หากคุณกำลังมีพฤติกรรมเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังเข้าสู่ภาวะเงินช็อตโดยไม่รู้ตัว

  • ใช้เงินเดือนชนเดือน

เงินเดือนออกเท่าไหร่ก็ใช้หมดจนไม่เหลือเก็บ และมักบ่นเป็นประจำว่าช่วงนี้ช็อต ก็เป็นสัญญาณว่ากำลังประสบปัญหาเงินขาดมือ หากไม่เริ่มเก็บเงินสำรองไว้เลย เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ต้องใช้เงินด่วน ก็อาจต้องหันไปกู้เงินมาใช้จ่ายในที่สุด

  • ต้องกู้เงินมาใช้จ่าย

หากถึงขั้นต้องกู้เงินมาใช้จ่ายกับค่าใช้จ่ายพื้นฐานในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าน้ำค่าไฟ แสดงว่ากำลังเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่องรุนแรงแล้ว และควรรีบวางแผนเพิ่มรายได้หรือลดรายจ่าย เพื่อหาทางจัดการกับหนี้สินพอกพูนจนควบคุมไม่ได้

5 วิธี แก้ปัญหาเงินช็อตที่ใคร ๆ ก็ทำตามได้

ช็อตเงิน

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาเงินช็อต และรู้สึกว่าการเงินเริ่มติดขัด การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังคือสิ่งจำเป็น เพื่อให้สภาพคล่องทางการเงินกลับมาลื่นไหลอีกครั้ง ต่อไปนี้คือ 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาเงินขาดมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. บันทึกรายรับทำบัญชีรายจ่ายต่อเดือน

การทำบัญชีรายรับรายจ่ายถือเป็นวิธีจัดการเงินขั้นพื้นฐานที่หลายคนมักมองข้าม เพราะคิดว่าบัญชีรายรับรายจ่ายมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและเสียเวลา ทั้งที่หากทำบัญชีรายรับรายจ่ายได้ดี จะช่วยให้เห็นภาพรวมการใช้เงินได้อย่างชัดเจน และสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกได้ ปัจจุบันยังมีแอปพลิเคชันด้านการเงินมากมาย ที่ช่วยบันทึกรายรับรายจ่ายให้คุณได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยตนเอง

2. เริ่มหางานพิเศษทำนอกเวลางาน

หากรายได้หลักไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย การมองหารายได้เสริมนอกเวลางานเป็นทางออกที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้อย่างดี ปัจจุบันมีงานเสริมหลากหลายรูปแบบที่สามารถทำจากที่บ้านได้ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเขียนบทความ หรือการออกแบบเว็บไซต์ หากทำอย่างต่อเนื่องและพัฒนาฝีมือให้ดี อาชีพเสริมเหล่านี้อาจสร้างรายได้ดีพอ ๆ กับอาชีพหลัก

3. แบ่งเงินเป็นสัดส่วน

เมื่อเงินเดือนออก ควรแบ่งเงินเป็นสัดส่วนตั้งแต่ต้น เช่น แบ่งเงินเก็บ 10% ของรายได้ แบ่งอีก 10% เพื่อส่งให้ครอบครัว ส่วน 80% ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน ซึ่งการแบ่งเงินเป็นสัดส่วนจะช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงในการใช้เงินเกินตัว และยังมั่นใจได้ว่ามีเงินออมสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็นเสมอ

4. ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ตัดรายจ่ายไม่จำเป็น

การแก้ปัญหาเงินช็อต ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเป็นสิ่งแรกที่ต้องตัดออกไป ลองสำรวจดูว่ามีค่าใช้จ่ายใดบ้างที่เราสามารถปรับลดได้ เช่น กาแฟราคาแพง การซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย หรือการออกไปเที่ยวบ่อย ๆ เมื่อปรับลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้ว หลายคนพบว่ามีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้น

5. มองหาตัวช่วยฉุกเฉินยามจำเป็น

หากเกิดปัญหาเงินช็อตจริง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินนอกระบบ แล้วมองหาตัวช่วยยามจำเป็นที่ถูกกฎหมาย เช่น บัตรกดเงินสด A money ที่สมัครง่าย เพียงมีรายได้เฉลี่ยขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 5,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถสมัครได้ จุดเด่นคือมีวงเงินไว้ใช้ยามจำเป็น สามารถโอนเงินเข้าบัญชีหรือกดเงินสดออกมาจากตู้ ATM ของธนาคารพันธมิตร

ทั้งนี้ ก่อนสมัครบัตรกดเงินสดควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน และสมุดบัญชีเงินฝากหรือรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินประเมินความสามารถในการชำระหนี้ และในกรณีที่ต้องการสมัครบัตรกดเงินสด ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็ยังสามารถสมัครได้โดยใช้เอกสารอื่นแทน เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)

เงินช็อต แก้ไม่ยากแค่มีวินัยการเงินที่ดี

หวังว่าทุกคนจะได้คำตอบกันแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเงินช็อตมาจากอะไร การจัดการกับปัญหาเงินช็อตไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ออมเงินสม่ำเสมอทุกครั้งหลังเงินเดือนออก รวมถึงรักษาวินัยทางการเงินที่ดี ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่ต้องประสบปัญหาเงินช็อต หรืออยู่แบบเดือนชนเดือนอีกต่อไป

แต่หากในบางช่วงยังรู้สึกว่าเงินช็อต เงินไม่พอใช้จ่ายจริง ๆ บัตรกดเงินสด A money พร้อมแล้วที่จะเป็นตัวช่วยทางการเงินจัดการกับปัญหาขาดสภาพคล่องได้ทันที เพียงมีรายได้เฉลี่ยขั้นต่ำเริ่มต้นเพียง 5,000 บาทต่อเดือน ก็สามารถสมัครได้ง่าย ๆ ผ่านแอป A money ทั้งบน iOS, Android และ Harmony OS (Huawei) รวมถึงผ่านเว็บไซต์ โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา พร้อมชำระคืนขั้นต่ำเพียง 2.5% ของยอดคงค้าง* 

*โปรโมชั่นถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568

**อัตราดอกเบี้ย 13% - 25% ต่อปี กู้เท่าที่จําเป็นและชําระคืนไหว

ย้อนกลับ